รากฟันเทียม
ทดแทนฟันธรรมชาติ รากฟันเทียมเป็นฟันเทียมที่ฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร มีลักษณะและทำหน้าที่คล้ายกับฟันธรรมชาติ จึงสามารถทดแทนฟันธรรมชาติที่หายไปได้อย่างสมบูรณ์
ทดแทนฟันธรรมชาติ รากฟันเทียมเป็นฟันเทียมที่ฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร มีลักษณะและทำหน้าที่คล้ายกับฟันธรรมชาติ จึงสามารถทดแทนฟันธรรมชาติที่หายไปได้อย่างสมบูรณ์
ช่วยให้การบดเคี้ยวอาหารมีประสิทธิภาพ รากฟันเทียมช่วยให้การบดเคี้ยวอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้สามารถรับประทานอาหารได้หลากหลายและมีความสุขกับการรับประทานอาหารมากขึ้น
ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ การมีฟันที่ครบถ้วนสวยงาม ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพและเพิ่มความมั่นใจในการยิ้มและพูด
การทำรากฟันเทียมเป็นการรักษาที่ใช้เวลาและค่าใช้จ่ายสูง แต่คุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้ เพราะรากฟันเทียมสามารถใช้งานได้ยาวนานหลายสิบปี
การทำงานของรากฟันเทียม
เนื่องจาก รากฟันเทียม เป็นวัสดุที่ทำจากไททาเนียมหรือเซรามิก มีลักษณะคล้ายกับสกรู เวลาใส่ เข้าไปในขากรรไกร รากฟันเทียมเป็นหลักยึดครอบฟัน สะพานฟัน หรือฟันปลอม เพื่อทดแทน ฟันเดิม ซึ่งใช้เวลาในการรักษาประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งแต่ละคนจะใช้เวลาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ หลายปัจจัย เช่น สภาพกระดูกขากรรไกร จำนวนฟันที่ต้อง ทำรากฟันเทียม
การเตรียมตัวก่อนทำรากฟันเทียม
1.ปรึกษากับคุณหมอเฉพาะทางเพื่อวางแผนการรักษา เช่น จำนวนของรากฟันเทียมที่ใส่ , ต้องปลูกกระดูกร่วมด้วยหรือไม่
2.ถ้าคนไข้มีโรคประจำตัว ควรแจ้งกับคุณหมอ เพื่อวางแผนประเมิน ก่อนทำรากฟันเทียม
3.อาจต้อง X-ray 3 มิติ เพื่อวางแผนการรักษาในกรณีที่ต้องใส่รากฟันเทียมหลายซี่ หรือ มีกระดูกที่หายไปค่อนข้างมาก
การดูแลรักษารากฟันเทียม
1.เพิ่มอายุการใช้งาน ทำความสะอาดช่องปากให้ถูกวิธี เช่น การแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟัน
2.ไปพบทันตแพทย์ตามนัดทุกครั้ง และทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
3.ระมัดระวังการเคี้ยวอาหาร หลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็ง เพื่อรักษารากฟัน
เลือกใช้รากฟันเทียมที่มีคุณภาพและเลือกทำรากฟันเทียมกับทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยและไม่มีปัญหาในภายหลัง

รากฟันเทียม (dental implant) ช่วยอะไรบ้าง เมื่อฟัน 1 ซี่ หรือ หลายซี่หายไป และไม่ได้รับการใส่ฟันตามเวลาที่สมควร จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
- ฟันข้างเคียงจะพยายามเข้ามาปิดช่อง ซึ่งส่งผลต่อฟันซี่นั้นจะเอียงหรือ ล้ม ทำให้ซี่นั้น ผุง่าย เป็นโรคเหงือก หรือปริทันต์ได้ง่าย กระดูกบริเวณนั้นหายไป จนเป็นเหตุให้ต้องถอนฟันอีกต่อเนื่อง
- ฟันคู่สบ จะพยายามเคลื่อนตัวมาบริเวณช่องนั้น ส่งผลให้ฟันยื่นยาว และเสียวฟันบริเวณนั้น ซึ่งหากปล่อยไว้ จะส่งผลให้ต้องถอนฟันซี่นั้นตามมา
- ฟันที่เหลืออยู่ (มีจำนวนน้อยลง) แต่ต้องรับแรงบดเคี้ยวเท่าเดิม ทำให้ฟันที่เหลืออยู่ได้รับแรงมาเกินไป ส่งผลให้ฟันแตก
- ใบหน้า ดูมีริ้วรอย จากการสูญเสียความสูงของฟัน บดเคี้ยวด้านหลัง
- ความสวยงามที่หายไป การขาดความมั่นใจ หรือยิ้มแล้วเห็นฟันหลอ โดยเฉพาะบริเวณฟันหน้า
รากฟันเทียมเหมาะกับใคร
- บุคคลที่มีการสูญเสียฟัน และปฏิเสธการใส่ฟันปลอมแบบถอดได้
- บุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
- บุคคลที่มีสุขภาพดี หรือ มีโรคประจำตัวที่สามารถควบคุมได้ สามารถเข้ารับการฝังรากเทียมได้ และมาตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
- ผู้ที่มรฟันแตก หัก หรือบิ่น สมควรได้รับการถอนและวางแผนการใส่รากเทียมโดยทันตแพทย์
- ผู้ที่ต้องการทำฟันปลอมแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
- เหงือกอยู่ในสภาพปกติ ไม่มีการอักเสบ
รากเทียมไม่เหมาะกับใคร
- ผู้ที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี เนื่องจากกระดูกขากรรไกรยังเจริญไม่เต็มที่
- หญิงตั้งครรภ์ แนะนำให้คลอดบุตรก่อนแล้วค่อยเริ่มต้นการทำรากฟันเทียม
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ที่ต้องได้รับการฉายแสง บริเวณใบหน้าและขากรรไกร ผู้ป่วยลูคิเมีย ผู้ป่วยไฮเปอร์ไทรอยด์ ผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
- ผู้ป่วยจิตเภท หรือผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ หรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถดูแลรักษาสุขภาพช่องปากได้
ใส่รากฟันเทียมเจ็บไหม ทำไมต้องใส่รากฟันเทียม
มีวิธีทำรากฟันเทียมแบบไม่เจ็บได้หรือไม่ ทำอย่างไร?
ในขณะที่ทำการผ่าตัดฝังรากเทียมนั้น ผู้รับการฝังรากฟันเทียมจะไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ เนื่องจากทันตแพทย์ทำการผ่าตัดโดยใช้ยาชา แต่หลังจากยาชาหมดฤทธิ์ (หลังทำการรักษาประมาณ 2-4 ชั่วโมง) จะเริ่มรู้สึกปวด
ดังนั้น หากต้องฝังรากฟันเทียม จึงควรรับประทานยาแก้ปวดก่อนที่ยาชาจะหมดฤทธิ์ โดยอาการปวดนั้นจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความยากง่ายซับซ้อนในการทำ ระยะเวลาที่ใช้ในการผ่าตัด และจำนวนรากฟันเทียมที่ฝัง
อย่างไรก็ตาม ในบางรายอาจไม่มีอาการปวด หรือปวดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น บางรายอาจมีอาการปวดมาก แต่อาการปวดนั้นมักเป็นอยู่ไม่เกิน 7-10 วัน
ทันตแพทย์จะสั่งยาแก้ปวดให้รับประทานอยู่แล้ว สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้จนกว่าอาการปวดจะหายไป รวมทั้งใน 3-5 วันแรกอาจมีอาการบวมได้บ้าง ถือว่าปกติ แต่หากมีอาการปวดบวมมาก หรือปวดนานหลายวันไม่หาย ควรปรึกษาทันตแพทย์
รากฟันเทียมหลุด ต้องทำอย่างไร?
ภายหลังการผ่าตัดฝังตัวรากเทียม ระหว่างรอรากฟันเทียมและกระดูกเชื่อมติดกัน หมอจะใส่จุกปิด (healing cap) ที่มีลักษณะคล้ายหัวน็อต ใส่เพื่อป้องกันเศษอาหาร เข้าไปยัดในรูรากเทียม และเป็นการตกแต่งเหงือกให้เป็นรูปเบ้าฟัน จุกปิดนี้สามารถหลุดออกได้จากการเคี้ยวอาหาร หรือแปรงฟันรุนแรง บ่อยครั้งทำให้คนไข้เข้าใจผิด คิดว่าตัวรากเทียมหลุด การรักษาเพียงนำจุกปิดนี้กลับมาให้หมอใส่ให้ใหม่
หากเป็นส่วนของตัวรากเทียมหลุด จะมีลักษณะเป็นทรงกระบอกหรือทรงกระบอกที่สอบเล็กน้อย มีเกลียวตลอดทั้งชิ้นหรือเกือบทั้งชิ้นถ้าตัวรากเทียมอาจหลุดออกจากขากรรไกรต้องรีบนำกลับไปพบทันตแพทย์เพื่อประเมินการยึดติด หาสาเหตุและวางแผนการรักษาใหม่ อาจเป็นการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมใหม่ หรือเปลี่ยนแผนการรักษาเป็นใส่ฟันปลอมชนิดอื่นแทน
หากเป็นส่วนของครอบฟันหรือฟันเทียมที่ยึดติดบนตัวรากเทียมหลุด สามารถนำกลับไปให้ทันตแพทย์ตรวจหาสาเหตุ และติดกลับไปบนตัวรากเทียมใหม่ได้
รากฟันเทียม ที่ไหนดี
ทำรากฟันเทียมสักที่หนึ่ง อยากให้พิจารณาจากหลายๆประเด็นเพื่อความปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพคุ้มค่า คุ้มราคามากที่สุด
- ทำรากฟันเทียมกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ข้อนี้ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด เพราะการทำรากฟันเทียมมีขั้นตอนการทำที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง เพราะอาจแก้ไขได้ยาก ทันตแพทย์จำเป็นต้องมีความรู้และความชำนาญ สามารถเลือกรากฟันเทียมที่เหมาะสมกับคนไข้ มีความเข้าใจเรื่องการบดเคี้ยว และขั้นตอนทางทันตกรรมประดิษฐ์ มีการดูแลและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
- คลินิกทันตกรรมได้มาตรฐาน การทำรากฟันเทียมจำเป็นต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อในการประเมินปัญหาคนไข้ สามารถให้การรักษาเป็นที่เห็นผลเร็ว และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง พร้อมทั้งอุปกรณ์ต่างๆที่ช่วยให้การทำงานของทันแพทย์แม่นยำ และปลอดภัย
- บรรยากาศร่มรื่น ให้ความรู้สึกผ่อนคลายลดความตึงเครียด และลดความแออัดในคลินิก คลินิกควรมีความสะอาด ปลอดภัยจากเชื้อโรค กว้างขวาง ที่ระยะห่างของคนไข้
- ความสะอาดและรูปลักษณ์ของคลินิกคลินิกทันตกรรมที่ให้บริการ ควรมีความสะอาด สว่าง กลิ่นหอม และมีการจัดแต่งร้านที่น่าประทับใจ อาจมีวัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัย ภายในคลินิกควรมีภาพแสดงงานทันตกรรมต่างๆ ก่อนและหลังการรักษา
- ราคาสมเหตุสมผล ราคากับคุณภาพ เป็นอีกหนึ่งปัจจัย การคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเพียงอย่างเดียวอาจไม่ได้คุณภาพและการดูแลตามที่เราคิดไว้ ทำให้ต้องมาเสียเวลาแก้งาน ส่วนราคาที่แพงเกินไป ก็ไม่ดีเช่นกันทำให้เราเสียเงินมากกว่าจำเป็น ดังนั้นราคาที่รับได้และสมเหตุสมผล ไม่แพงและไมถูกมาก เพื่อคุณภาพและราคาที่เหมาะสม
- คุณภาพวัสดุอุปกรณ์ทำรากฟันเทียม ครอบฟันรากฟันเทียมมีหลายยี่ห้อ ราคาก็ต่างกันเช่นเดียวกับครอบฟันที่มีหลายชนิดให้คนไข้เลือก ซึ่งทางแพทย์จะเป็นผุ้เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งาน และความสวยงามประกอบกันทั้งนี้ทั้งรากฟันเทียมและครอบฟัน ควรเลือกคลินิกที่ใช้ยี่ห้อรากฟันเทียมที่เป็นที่รู้จัก ต้องได้มาตรฐาน วัสดุที่ใช้เป็นของแท้มีแลปที่ได้รับการรับรองในไทยเป็นผู้ดูแล 5. การเดินทางสะดวก
- บริการด้วยความเอาใจใส่ การทำรากฟันเทียม จะต้องมีการนัดพบเพื่อตรวจติดตามอย่างเหมาะสม นอกจากทันตแพทย์แล้ว ทีมงานผู้ช่วยทันตแพทย์และพนักงานต้องมีใจบริการ เอาใจใส่คนไข้เป็นอย่างดี สามารถให้คำแนะนำพนักงานสามารถให้ข้อมูลพื้นฐานของงานทันตกรรมชนิดต่างๆ ตอบคำถามคนไข้ได้เบื้องต้น อำนวยความสะดวกในการทำนัดล่วงหน้า เพื่อให้คนไข้ไม่ต้องรอคิวนาน จัดคิวประสานงาน ติดตามอาการหลังการรักษา
ข้อดี-ข้อจำกัดของการปลูกรากฟันเทียม
- เพิ่มความมั่นใจ เสริมบุคลิก พูดและยิ้มได้อย่างเต็มที่
- ทำให้สุขภาพอนามัยในช่องปากดีขึ้น และช่วยรักษาเนื้อเยื่อของเหงือก เนื่องจากโครงสร้าง ของฟันสมบูรณ์และแข็งแรง
- ทำให้เคี้ยวอาหารได้สะดวกขึ้น และรักบประทานอาหารได้ปกติ
- พูดและออกเสียงได้ชัดขึ้น
- ลดความกังวลเกี่ยวกับปัญหาในช่องปากได้
ข้อจำกัดของการรักษา
- ราคาสูงกว่าฟันปลอมประเภทอื่น
- การทำรากฟันเทียมไม่สามารถทำในเด็กที่อายุต่ำกว่า18ปี
- มีข้อจำกัดสำหรับผู้มีโรคประจำตัว
- คนที่สูบบุหรี่หรือดื่มสุราจัดมีความเสี่ยงในการรักษา
รากฟันเทียม มีกี่ยี่ห้อ
- Osstem เป็น brand จากเกาหลีใต้
- Hiossen เป็น brand จาก อเมริกา
- Astra Tech เป็น brand จาก สวีเดน
- Straumann เปิน brand จาก สวิตช์เซอร์แลนด์
ทุก brand ที่ใช้ จะทำร่วมกับ ครอบฟันที่เป็นเซรามิกล้วน (all ceramics crown) brand จาก Astra tech กับ straumannทาง brand จะรับประกันส่วนของตัวรากเทียม (fixture)