ครอบฟัน (Dental Crown)

ฟันได้รับความเสียหายเช่น ฟันแตก ฟันหัก ฟันบิ่น ส่งผลให้จำเป็นต้องรักษาด้วยการใส่ครอบฟัน ( Dental Crowns ) เพื่อให้ฟันกลับมาใช้งานได้ตามปกติหรือตกแต่งรูปทรงให้ฟันสวยงาม เสริมความ มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน 

ในปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากครอบฟันใช้วัสดุเซรามิกที่แข็งแรงมาแทนโลหะ มีความใสและสวยยงามเป็นธรรมชาติ สามารถบดเคี้ยวอาหารและใช้งานได้เหมือนเดิม ส่วนมากจะเป็นการทำครอบฟันหน้าที่จะเน้นเรื่องความสวยงาม ส่วนฟันหลังเน้นเรื่องการใช้งานบดเคี้ยวอาหาร

ครอบฟัน คืออะไร? ทำไมถึงต้อง “ครอบฟัน”

การครอบฟัน เป็นการรักษาและปกป้องฟันโดยการครอบหรือคลุมฟันที่เสียหายทั้งซี่ ทำให้ฟันซี่นั้นแข็งแรงขึ้น หรือเพื่อตกแต่งรูปทรงให้ฟันสวยงามเป็นระเบียบมากขึ้น ด้วยการใช้โลหะล้วน หรือเซรามิกล้วน หรืออาจใช้ทั้งโลหะและเซรามิกมาปรับสีให้เข้ากับสีฟันตามธรรมชาติ เพื่อให้ฟันสวยงาม แข็งแรง นอกจากนี้การครอบฟันยังนิยมทำหลังจากการรักษารากฟัน เพื่อปกป้องให้ฟันกลับมาคงทนทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย

เหตุผลที่ต้องทำครอบฟัน

1.ฟันผุใหญ่และเยอะ เนื้อฟันเหลือน้อยจึงไม่สามารถรักษาโดยการอุดฟันได้

2.ฟันแตกควรต้องรักษาด้วยการทำครอบฟัน เพื่อเก็บรักษาฟันให้ใช้งานได้ยาวนาน

3.ฟันร้าว อาจมีผลให้แตกในอนาคตได้ จึงควรทำครอบฟันเพื่อป้องกัน

4.ฟันที่เคยผ่านการรักษารากฟันมาก่อน เนื้อฟันไม่แข็งแรงเหมือนกับฟันปกติ

5.สีฟันและรูปร่างฟันไม่สวยงาม เหมือนฟันซี่ข้างเคียง

ประเภทของครอบฟัน

ครอบฟันมีกี่แบบ สามารถแบ่งประเภทของครอบฟัน ตามวัสดุครอบฟันแต่หลัก ๆ ได้ออกเป็น 6 ประเภทที่เป็นนิยม คือ

1. ครอบฟันโลหะล้วน (Full Metal Crown: FMC)

• ลักษณะเด่น: แข็งแรงที่สุดในบรรดาวัสดุครอบฟัน ไม่แตกหรือบิ่นง่าย
• ข้อเสีย: สีโลหะไม่เหมือนฟันธรรมชาติ จึงนิยมใช้กับฟันกรามหรือฟันซี่ใน
• เหมาะสำหรับ: ผู้ที่เน้นการใช้งานบดเคี้ยว

2. ครอบฟันโลหะเคลือบเซรามิก (Porcelain-fused-to-metal: PFM)

• ลักษณะเด่น: รวมความแข็งแรงของโลหะและความสวยงามของเซรามิก
• ข้อเสีย: ต้องกรอเนื้อฟันออกมากกว่าประเภทอื่น
• เหมาะสำหรับ: ฟันที่ต้องการทั้งความแข็งแรงและความสวยงาม

3. ครอบฟันเซรามิกล้วน (All-Ceramic Crown: ACC)

• ลักษณะเด่น: สวยงาม ใสเหมือนฟันธรรมชาติ
• ข้อเสีย: ไม่ทนทานเท่าโลหะ และไม่เหมาะกับผู้ที่นอนกัดฟัน
• เหมาะสำหรับ: ฟันหน้าและผู้ที่ต้องการความสวยงาม

4. ครอบฟันเซอร์โคเนีย (Zirconia Crown)

• ลักษณะเด่น: แข็งแรงมากที่สุดในกลุ่มเซรามิกล้วน
• ข้อเสีย: ความสวยงามน้อยกว่าเซรามิกแบบแก้วเล็กน้อย
• เหมาะสำหรับ: ฟันหลังหรือฟันหน้าที่ต้องการความแข็งแรง

5. ครอบฟันเรซิน (All-Resin Crown)

• ลักษณะเด่น: ราคาประหยัด น้ำหนักเบา ใช้งานชั่วคราวได้ดี
• ข้อเสีย: ไม่ทนทานเหมือนวัสดุอื่น
• เหมาะสำหรับ: ครอบฟันชั่วคราวระหว่างการรักษา

6. ครอบฟันเหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless Steel Crown: SSC)

• ลักษณะเด่น: สำเร็จรูป ติดตั้งง่าย ใช้เวลาน้อย
• ข้อเสีย: ไม่เน้นความสวยงาม
• เหมาะสำหรับ: ฟันน้ำนมในเด็ก

ข้อดีของครอบฟัน

• ฟื้นฟูฟันเสียหายให้ใช้งานได้เหมือนปกติ
• เสริมความสวยงามด้วยวัสดุที่ดูเป็นธรรมชาติ
• ป้องกันฟันจากการเสียหายในอนาคต

เลือกครอบฟันแบบไหนดี?

• หากต้องการความแข็งแรง: โลหะ > โลหะเคลือบเซรามิก > เซรามิกล้วน
• หากเน้นความสวยงาม: เซรามิกล้วน > โลหะเคลือบเซรามิก > โลหะ
• หากต้องการรักษาเนื้อฟันเดิม: โลหะ เหมาะสมที่สุด เนื่องจากต้องกรอเนื้อฟันน้อยที่สุด

การครอบฟันไม่เพียงช่วยฟื้นฟูฟันที่เสียหาย แต่ยังช่วยเสริมความมั่นใจด้วยฟันที่ดูสวยงามเหมือนธรรมชาติ การเลือกประเภทของครอบฟันควรพิจารณาจากความต้องการในการใช้งาน ความสวยงาม และคำแนะนำจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ