ใส่ฟันปลอม เจ็บไหม วิธีปรับตัวและการดูแลให้ใส่สบาย

Petcharadentalclinic • August 20, 2025

ใส่ฟันปลอม เจ็บไหม? วิธีปรับตัวและการดูแลให้ใส่สบาย

ใส่ฟันปลอม เจ็บไหม? วิธีปรับตัวและการดูแลให้ใส่สบาย

การใส่ฟันปลอมเป็นทางเลือกหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการสูญเสียฟัน ซึ่งช่วยให้คุณกลับมายิ้มได้อย่างมั่นใจและเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม คำถามที่หลายคนกังวลและสงสัยมากที่สุดคือ "ใส่ฟันปลอม เจ็บไหม?"


ใส่ฟันปลอม เจ็บไหม? เข้าใจอาการและวิธีดูแลให้ใส่สบาย

การใส่ฟันปลอมเป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันไป ซึ่งช่วยให้กลับมาเคี้ยวอาหารและยิ้มได้อย่างมั่นใจ แต่หลายคนมักมีข้อสงสัยและความกังวลว่า "ใส่ฟันปลอมจะเจ็บไหม?" คำตอบคือ อาการเจ็บหรือไม่สบายในช่วงแรกเป็นเรื่องปกติ และสามารถบรรเทาได้ด้วยการดูแลที่ถูกวิธี


ความรู้สึกในช่วงแรกของการใส่ฟันปลอม

ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการใส่ฟันปลอมใหม่ๆ เป็นช่วงที่ร่างกายกำลังปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแปลกปลอมในช่องปาก อาการที่พบบ่อยและถือเป็นเรื่องปกติ ได้แก่:

  • อาการเจ็บหรือปวด: อาจเกิดขึ้นจากการที่ฟันปลอมกดทับเหงือกบางจุด ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยแดงหรือแผลเล็กๆ ในช่องปากได้
  • รู้สึกไม่พอดีหรือหลวม: ฟันปลอมอาจขยับได้ง่าย ทำให้การพูดหรือเคี้ยวอาหารยังไม่เป็นธรรมชาติ
  • น้ำลายไหลมากขึ้น: เป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายที่รับรู้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้ามา
  • พูดไม่ชัด: ต้องใช้เวลาฝึกการออกเสียงให้คุ้นชินกับตำแหน่งใหม่ของฟันปลอม

อาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป แต่หากอาการเจ็บไม่ลดลง หรือมีแผลที่รุนแรง ควรรีบกลับไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการปรับแก้ฟันปลอมให้พอดีกับช่องปากมากที่สุด


ทำไมต้องใส่ฟันปลอม?

การใส่ฟันปลอมอาจดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับบางคน แต่สำหรับผู้ที่สูญเสียฟันไปแล้ว การใส่ฟันปลอมนั้นมีความสำคัญอย่างมาก ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังรวมถึงสุขภาพในช่องปากและคุณภาพชีวิตโดยรวมด้วย

1. ช่วยให้เคี้ยวอาหารได้ปกติ

ฟันมีหน้าที่สำคัญในการบดเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน หากสูญเสียฟันไปโดยเฉพาะฟันกรามที่ใช้บดเคี้ยว จะทำให้การเคี้ยวอาหารทำได้ยากขึ้น ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักกว่าเดิมและอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารได้ การใส่ฟันปลอมจะช่วยฟื้นฟูประสิทธิภาพในการเคี้ยวอาหาร ทำให้คุณสามารถรับประทานอาหารได้หลากหลายมากขึ้นและได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน


2. รักษารูปหน้าและโครงสร้างกระดูกขากรรไกร

เมื่อไม่มีฟันมาค้ำจุน กระดูกขากรรไกรในบริเวณที่ฟันหายไปจะค่อยๆ ยุบตัวลง ทำให้แก้มตอบลงและใบหน้าดูแก่กว่าวัย การใส่ฟันปลอมจะช่วยป้องกันการยุบตัวของกระดูก และคงรูปทรงของใบหน้าให้เป็นปกติ


3. ฟื้นฟูความมั่นใจในรอยยิ้ม

การสูญเสียฟันโดยเฉพาะฟันหน้า อาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจ ไม่กล้ายิ้มหรือพูดคุยกับผู้อื่นในที่สาธารณะ การใส่ฟันปลอมจะช่วยเติมเต็มช่องว่างที่หายไป ทำให้คุณกลับมามีรอยยิ้มที่สวยงามและมั่นใจอีกครั้ง


4. ป้องกันปัญหาฟันซี่อื่น

เมื่อมีช่องว่างจากการสูญเสียฟัน ฟันซี่ข้างเคียงมีแนวโน้มที่จะล้มเอียงเข้ามาในช่องว่างนั้น ทำให้เกิดการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดฟันผุและโรคเหงือกได้ง่าย การใส่ฟันปลอมจะช่วยป้องกันการเคลื่อนที่ของฟันซี่อื่นๆ และรักษาสุขภาพช่องปากโดยรวมให้ดีขึ้น


สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติม
ฟันปลอมอยู่ได้นานแค่ไหน? วิธีดูแลให้ใช้งานได้นาน


ความรู้สึกช่วงแรกของการใส่ฟันปลอม

ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก หลังจากที่คุณเริ่มใส่ฟันปลอมใหม่ๆ คุณอาจรู้สึกไม่คุ้นชินและมีอาการไม่สบายตัวบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากเหงือกและเนื้อเยื่อในช่องปากต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับสิ่งแปลกปลอมใหม่ๆ โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่:

  • อาการเจ็บหรือปวด: อาการนี้เกิดจากการที่ฟันปลอมมีการกดทับเหงือกบางจุด ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเจ็บหรือปวดได้ นอกจากนี้แรงเสียดสีจากการเคี้ยวอาหารก็สามารถทำให้เกิดอาการระคายเคืองและอาจเกิดแผลในช่องปากได้เช่นกัน
  • รู้สึกไม่พอดีหรือหลวม: ฟันปลอมอาจขยับได้ง่ายในระหว่างการพูดหรือเคี้ยวอาหาร ซึ่งทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นคงและยังไม่คุ้นชิน โดยอาการนี้จะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อบริเวณแก้มและลิ้นเริ่มปรับตัวเพื่อช่วยประคองฟันปลอมให้อยู่กับที่
  • น้ำลายไหลมากขึ้น: เป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายที่รับรู้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในปาก ซึ่งร่างกายจะกระตุ้นการผลิตน้ำลายมากขึ้นเพื่อขับสิ่งแปลกปลอมนั้นออกไป อาการนี้จะค่อยๆ ลดลงเมื่อคุณคุ้นเคยกับฟันปลอมมากขึ้น
  • พูดไม่ชัด: ในช่วงแรกคุณอาจออกเสียงบางคำได้ไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากลิ้นและริมฝีปากยังไม่ชินกับการมีฟันปลอมอยู่ในช่องปาก ซึ่งต้องใช้เวลาในการฝึกออกเสียงและปรับวิธีการพูด



วิธีปรับตัวและดูแลให้ใส่ฟันปลอมสบายขึ้น

การปรับตัวให้คุ้นชินกับฟันปลอมอาจต้องใช้เวลาและความอดทน แต่มีวิธีที่ช่วยให้คุณใส่ฟันปลอมได้อย่างสบายและมั่นใจขึ้น ดังนี้:


1. การฝึกใช้งานและรับประทานอาหาร

ในช่วงแรกให้เริ่มจากการ เคี้ยวอาหารอ่อนๆ และหั่นอาหารเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อลดแรงกดบนเหงือก พยายาม เคี้ยวอาหารทั้งสองข้าง ของช่องปากพร้อมๆ กัน เพื่อให้ฟันปลอมมั่นคงและกระจายแรงเคี้ยวให้สม่ำเสมอ เมื่อคุ้นชินแล้วจึงค่อยๆ เพิ่มความแข็งของอาหาร


2. การดูแลความสะอาดของฟันปลอม

ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ในการป้องกันการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ควรทำความสะอาดฟันปลอมเป็นประจำทุกวันด้วย:

  • แปรงสำหรับฟันปลอมโดยเฉพาะ: ใช้แปรงขนอ่อนและน้ำสบู่ หรือน้ำยาทำความสะอาดฟันปลอมเพื่อขจัดคราบ
  • ห้ามใช้ยาสีฟันธรรมดา: ยาสีฟันทั่วไปมีสารขัดฟันที่อาจทำให้ฟันปลอมเป็นรอยและเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
  • ถอดฟันปลอมออกทำความสะอาด: ควรถอดฟันปลอมออกทำความสะอาดหลังอาหารและก่อนนอนทุกครั้ง


3. การดูแลช่องปากและเหงือก

ในขณะที่ไม่ได้ใส่ฟันปลอม ควรทำความสะอาดเหงือกและลิ้นด้วยแปรงสีฟันขนอ่อน หรือผ้าขนหนูชุบน้ำ เพื่อช่วยให้เหงือกสะอาดและมีการไหลเวียนโลหิตที่ดี


4. การเก็บรักษาฟันปลอม

เมื่อถอดฟันปลอมออก ควรเก็บไว้ใน ภาชนะที่มีน้ำสะอาด หรือน้ำยาสำหรับแช่ฟันปลอม เพื่อไม่ให้ฟันปลอมแห้งและเสียรูปทรง


5. พบทันตแพทย์เป็นประจำ

การพบทันตแพทย์ตามนัดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ทันตแพทย์ตรวจสอบความพอดีของฟันปลอมและสุขภาพช่องปาก หากรู้สึกว่าฟันปลอมหลวมหรือไม่พอดี ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการปรับแก้ ไม่ควรปรับแก้ด้วยตัวเองเพราะอาจทำให้ฟันปลอมเสียหายได้



คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใส่ฟันปลอม

เมื่อพูดถึงการใส่ฟันปลอม หลายคนมักมีข้อสงสัยและกังวล โดยเฉพาะเรื่องความเจ็บและวิธีการดูแล นี่คือคำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบที่ช่วยให้คุณเข้าใจและเตรียมตัวได้ดีขึ้น


1. ใส่ฟันปลอมแล้วจะเจ็บไหม?

ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก อาจมีอาการเจ็บหรือระคายเคืองบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเหงือกและเนื้อเยื่อในช่องปากกำลังปรับตัวให้เข้ากับฟันปลอมใหม่ อาการเจ็บอาจเกิดจากการกดทับของฟันปลอมในบางจุด แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหรือมีแผลที่รุนแรง ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการปรับแก้ให้พอดี


2. ต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะคุ้นชิน?

โดยทั่วไปแล้ว ใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ในการปรับตัวให้คุ้นชินกับการใส่ฟันปลอม คุณจะเริ่มเรียนรู้วิธีการพูดและเคี้ยวอาหารได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่การจะคุ้นชินได้อย่างสมบูรณ์อาจใช้เวลานานขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

  • การรับประทานอาหาร: เริ่มจากอาหารอ่อนๆ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และเคี้ยวอาหารทั้งสองข้างของช่องปากพร้อมกัน
  • การพูด: ฝึกอ่านออกเสียงหรือพูดคุยกับตัวเองหน้ากระจก เพื่อให้ลิ้นและริมฝีปากคุ้นเคยกับฟันปลอม


3. มีวิธีลดอาการเจ็บปวดในช่วงแรกได้อย่างไรบ้าง?

ในช่วงแรกของการใส่ฟันปลอม อาการเจ็บปวดและไม่สบายตัวถือเป็นเรื่องปกติ แต่คุณสามารถบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้:

  • รับประทานอาหารอ่อนๆ: ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ควรเลือกอาหารที่เคี้ยวง่ายและนิ่ม เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม หรือผักต้มเปื่อย เพื่อลดแรงกดทับบนเหงือก และควรหั่นอาหารเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้เคี้ยวง่ายขึ้น
  • ใช้ยาบรรเทาอาการปวด: หากคุณมีอาการปวดมากจนรู้สึกไม่สบายตัว สามารถใช้ยาบรรเทาอาการปวดที่หาซื้อได้ทั่วไป หรือปรึกษาทันตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการใช้ยาที่เหมาะสม
  • ถอดฟันปลอมออกเป็นระยะ: หากรู้สึกว่าฟันปลอมกดทับจนเจ็บปวดมาก ลองถอดฟันปลอมออกพักเป็นระยะเวลาสั้นๆ แล้วค่อยใส่ใหม่เมื่ออาการดีขึ้น วิธีนี้จะช่วยให้เหงือกได้พักผ่อนและลดการระคายเคืองได้


4. สามารถใส่ฟันปลอมนอนได้หรือไม่?

โดยทั่วไปแล้ว ทันตแพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ถอดฟันปลอมออกก่อนนอน เพื่อให้เหงือกและเนื้อเยื่อในช่องปากได้พักผ่อนและฟื้นตัวจากการถูกกดทับมาตลอดทั้งวัน

  • ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค: การใส่ฟันปลอมนอนจะทำให้เหงือกและเนื้อเยื่อใต้ฐานฟันปลอมถูกปกคลุมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ง่าย เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเหงือกและภาวะติดเชื้อในช่องปาก
  • ลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ: การใส่ฟันปลอมนอนจะทำให้มีแรงกดทับต่อเนื่องบนเหงือก ทำให้เหงือกอักเสบและเกิดแผลได้ง่าย
  • ให้เหงือกได้ฟื้นตัว: การถอดฟันปลอมออกในตอนกลางคืนจะช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเหงือกได้ดีขึ้น ทำให้เหงือกแข็งแรงและสุขภาพดี
  • ทำความสะอาดได้ทั่วถึง: การถอดฟันปลอมออกทำให้คุณสามารถทำความสะอาดฟันปลอมและช่องปากได้อย่างทั่วถึง ซึ่งช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์และทำให้สุขภาพช่องปากโดยรวมดีขึ้น


5. ต้องดูแลความสะอาดของฟันปลอมอย่างไร?

การดูแลความสะอาดของฟันปลอมอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันการสะสมของคราบและเชื้อโรค ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์และปัญหาช่องปากอื่นๆ

  • แปรงฟันปลอมทุกวัน: ควรแปรงฟันปลอมเป็นประจำทุกวันด้วย แปรงสำหรับฟันปลอมโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีขนแปรงที่แข็งพอที่จะขจัดคราบได้ โดยไม่ทำให้ฟันปลอมเป็นรอย
  • ห้ามใช้ยาสีฟันธรรมดา: ยาสีฟันทั่วไปมีสารขัดฟันที่อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนพื้นผิวฟันปลอม ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย ควรใช้น้ำสบู่อ่อนๆ หรือน้ำยาทำความสะอาดฟันปลอมโดยเฉพาะแทน
  • แช่ฟันปลอมเมื่อไม่ได้ใช้งาน: เมื่อถอดฟันปลอมออก โดยเฉพาะตอนกลางคืน ควรแช่ในภาชนะที่มี น้ำสะอาด หรือ น้ำยาสำหรับแช่ฟันปลอม เพื่อไม่ให้ฟันปลอมแห้งและเสียรูปทรง


6. ควรเปลี่ยนฟันปลอมบ่อยแค่ไหน?

โดยทั่วไปแล้ว ฟันปลอมจะมีอายุการใช้งานประมาณ 5-10 ปี แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือความพอดีของฟันปลอมกับช่องปากของคุณ

  • การเปลี่ยนแปลงของกระดูกขากรรไกร: เมื่อเวลาผ่านไป กระดูกขากรรไกรจะมีการเปลี่ยนแปลงและยุบตัวลงตามธรรมชาติ ทำให้ฟันปลอมที่เคยพอดีเริ่มหลวมหรือไม่แนบสนิทเหมือนเดิม
  • เมื่อฟันปลอมหลวม: สัญญาณที่บ่งบอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนฟันปลอมคือเมื่อคุณรู้สึกว่า ฟันปลอมหลวม เคี้ยวอาหารลำบาก หรือมีแผลจากการกดทับ เพราะฟันปลอมที่ไม่พอดีอาจทำให้เหงือกและเนื้อเยื่อในช่องปากอักเสบได้
  • การใช้งานและการดูแลรักษา: อายุการใช้งานของฟันปลอมขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลรักษา หากมีการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ฟันปลอมก็จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น



การใส่ฟันปลอมเป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมในการฟื้นฟูสุขภาพช่องปาก แต่คำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยคือ
"ใส่ฟันปลอมเจ็บไหม?" คำตอบคือ อาการเจ็บหรือระคายเคืองในช่วงแรกเป็นเรื่องปกติ แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อร่างกายปรับตัวได้

อาการที่อาจเกิดขึ้นในช่วงแรก:

  • เจ็บหรือปวด: เกิดจากแรงกดทับของฟันปลอมบนเหงือก ซึ่งมักจะดีขึ้นเมื่อคุ้นชิน
  • รู้สึกไม่พอดีหรือหลวม: ฟันปลอมอาจขยับได้ง่าย ทำให้เคี้ยวอาหารลำบาก
  • พูดไม่ชัด: ต้องใช้เวลาในการฝึกออกเสียงให้คุ้นเคย

การปรับตัวและดูแลให้ใส่สบาย:

  • ฝึกการเคี้ยว: เริ่มจากอาหารอ่อนๆ และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อลดแรงกด
  • รักษาความสะอาด: แปรงฟันปลอมทุกวันด้วยแปรงสำหรับฟันปลอมโดยเฉพาะ ห้ามใช้ยาสีฟันทั่วไป และแช่ในน้ำสะอาดเมื่อไม่ได้ใช้งาน
  • พบทันตแพทย์เป็นประจำ: หากมีอาการเจ็บปวดมาก หรือฟันปลอมหลวม ควรรีบกลับไปพบทันตแพทย์เพื่อปรับแก้


เพ็ชราคลินิก: พร้อมดูแลรอยยิ้มของคุณอย่างมั่นใจ


ที่ เพ็ชราคลินิก เราเข้าใจดีว่าการใส่ฟันปลอมเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องการความใส่ใจเป็นพิเศษ ทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบฟันปลอมที่เหมาะสมกับช่องปากของคุณมากที่สุด เพื่อให้คุณกลับมามีรอยยิ้มที่สวยงามและใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการทำฟันปลอมใหม่หรือการปรับแก้ฟันปลอมที่มีอยู่ เราพร้อมดูแลคุณในทุกขั้นตอนเพื่อให้คุณมั่นใจในทุกรอยยิ้ม


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

 โทร. 094-741-9369


 เวลาเปิด-ปิด วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-19.00 น.
พิกัด: 
https://goo.gl/maps/qUCfWj9PNAhcPuyr8

ปรึกษาทันตแพทย์

บทความอื่นๆ

dental-implant-contraindications
By Petchradentalclinic August 18, 2025
การใส่ รากฟันเทียม เป็นหนึ่งในวิธีทดแทนฟันที่เสียไป แต่ไม่ใช่ทุกคนสามารถทำรากฟันเทียมได้ บทความนี้จะสรุป ใครบ้างที่ไม่สามารถทำรากฟันเทียมได้ มีข้อจำกัดอะไรบ้าง
how-long-do-dental-implants-last
By Petcharadentalclinic August 15, 2025
การแก้ไขปัญหาการสูญเสียฟัน "รากฟันเทียม" หรือ "Dental Implant" คือหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูงสุด แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ "รากฟันเทียมอยู่ได้กี่ปี?"
อาการหลังผ่าตัดรากฟันเทียม ปวด บวม ช้ำ รับมืออย่างไร
By Petcharadentalclinic August 13, 2025
การผ่าตัดรากฟันเทียมเป็นที่นิยมในการทดแทนฟันที่สูญเสียไป อาจมีอาการข้างเคียงต่างๆ เช่น อาการปวด บวม บทความนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรับมืออาการเหล่านี้อย่างถูกวิธี