การเตรียมตัวก่อนจัดฟัน และการดูแลหลังจัดฟัน ควรทำอย่างไร?
การเตรียมตัวก่อนจัดฟัน และการดูแลหลังจัดฟัน ควรทำอย่างไร?

การเตรียมตัวก่อนจัดฟัน และการดูแลหลังจัดฟัน ควรทำอย่างไร?
การจัดฟันไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาฟันซ้อน ฟันเก ฟันยื่น หรือการสบฟันที่ผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคี้ยวอาหาร การพูด หรือแม้กระทั่งสุขภาพช่องปากโดยรวม การเตรียมตัวก่อนจัดฟัน และการดูแลหลังจัดฟันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
✅ การเตรียมตัวก่อนจัดฟัน
ก่อนเข้าสู่กระบวนการจัดฟัน คนไข้ควรเตรียมตัวให้พร้อมทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ โดยมีขั้นตอนสำคัญดังนี้:
1. ตรวจสุขภาพฟันเบื้องต้นกับทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน
- ตรวจสอบสภาพฟันโดยรวม เช่น ฟันซ้อน ฟันเก ฟันยื่น หรือฟันสบไม่พอดี
- พิจารณาว่าจำเป็นต้องจัดฟันหรือไม่ และเลือกประเภทของการจัดฟันที่เหมาะสม เช่น จัดฟันโลหะ จัดฟันใส Invisalign ฯลฯ
2. ตรวจสภาพรากฟันและเคลียร์ช่องปาก
- ตรวจดูว่ารากฟันแข็งแรงพอสำหรับการจัดฟันหรือไม่
- หากมีปัญหาในช่องปาก เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือฟันคุด ต้องรักษาให้หายก่อน
- อาจต้องถอนฟันบางซี่เพื่อให้เกิดพื้นที่ในการจัดฟัน
3. พิมพ์ฟันและเอกซเรย์
- พิมพ์ฟันเพื่อใช้ในการวางแผนการรักษา
- เอกซเรย์เพื่อดูตำแหน่งรากฟันและกระดูกขากรรไกร
- ข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำไปใช้ในการออกแบบแนวทางการจัดฟันเฉพาะบุคคล
✅ การดูแลตัวเองระหว่างจัดฟัน
ระหว่างอยู่ในกระบวนการจัดฟัน ซึ่งอาจใช้เวลานานตั้งแต่ 1.5 – 3 ปี การดูแลรักษาฟันให้สะอาดและมีสุขภาพดี เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนการรักษา เพราะหากละเลยอาจทำให้เกิดปัญหาฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือกลิ่นปาก และยังอาจส่งผลให้ระยะเวลาการจัดฟันยืดนานขึ้น
1. แปรงฟันอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ
- แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร โดยใช้ แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟัน หรือ แปรงหัวเล็ก เพื่อเข้าถึงบริเวณรอบ ๆ เครื่องมือจัดฟัน
- ใช้ยาสีฟันที่มี ฟลูออไรด์ เพื่อป้องกันฟันผุ
- หลีกเลี่ยงการแปรงแรงเกินไป เพราะอาจทำให้เครื่องมือหลุดหรือขยับผิดตำแหน่ง
2. ใช้ไหมขัดฟันและแปรงซอกฟันร่วมด้วย
- ใช้ ไหมขัดฟันสำหรับคนจัดฟัน หรือ แปรงซอกฟัน (Interdental brush) เพื่อทำความสะอาดคราบอาหารที่ติดตามลวดจัดฟัน
- ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุและเหงือกอักเสบ
3. หลีกเลี่ยงอาหารแข็ง เหนียว หรือเหนียวหนึบ
- งดอาหารจำพวกข้าวเหนียว ลูกอมเหนียวๆ ถั่วแข็ง น้ำแข็ง หรือผลไม้ดิบแข็ง ๆ
- เพราะอาจทำให้เครื่องมือจัดฟันหลุดเสียหาย หรือทำให้ฟันขยับผิดทิศทาง
4. หากรู้สึกเจ็บ ควรแจ้งทันตแพทย์
- อาการเจ็บหลังการปรับลวดจัดฟันในช่วง 1–3 วันแรกถือเป็นเรื่องปกติ
- หากมีอาการเจ็บผิดปกติ เช่น ลวดทิ่มเหงือก แผลในปาก หรือเครื่องมือหลุด ควรรีบกลับไปพบทันตแพทย์ทันที
- ทันตแพทย์อาจแนะนำ
แว็กซ์จัดฟัน เพื่อป้องกันการเสียดสีบริเวณที่ระคายเคือง
5. เข้าพบทันตแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
- โดยทั่วไปต้องมาปรับลวดทุก 4–6 สัปดาห์
- เพื่อให้ทันตแพทย์ประเมินผลการเคลื่อนตัวของฟัน และปรับเครื่องมือให้เหมาะสมกับแผนการรักษา
- การขาดนัดบ่อย ๆ อาจทำให้ระยะเวลาการจัดฟันยาวนานขึ้น
✅ การดูแลหลังจัดฟัน (หลังถอดเครื่องมือจัดฟัน)
หลังจากที่การจัดฟันเสร็จสมบูรณ์และถอดเครื่องมือออกแล้ว การดูแลต่อเนื่องเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเพื่อรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่ยาวนาน
1. ใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของทันตแพทย์
- รีเทนเนอร์มีหน้าที่คงสภาพของฟันไม่ให้เคลื่อนที่กลับไปตำแหน่งเดิม
- ต้องใส่ตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะช่วง 6 เดือนแรกหลังถอดเครื่องมือ
2. หลีกเลี่ยงอาหารแข็ง เหนียว และยากต่อการเคี้ยว
- เช่น ข้าวเหนียว ถั่วแข็ง หรือเนื้อเหนียว
- เพื่อป้องกันแรงกดบนฟันที่เพิ่งจัดเสร็จ ซึ่งยังไม่แข็งแรงดีนัก
3. ใส่ใจเรื่องความสะอาดในช่องปาก
- แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์
- ใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟัน เพื่อขจัดคราบที่ติดตามร่องฟัน
- พกแปรงสีฟันติดตัว แปรงทุกครั้งหลังอาหาร
4. ตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน
- ขูดหินปูน
- ตรวจหาฟันผุ หรือปัญหาสุขภาพช่องปากอื่น ๆ
- ขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากทันตแพทย์ในการดูแลรีเทนเนอร์และฟันหลังจัดเสร็จ
การจัดฟันเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการวางแผนและการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด โดย ก่อนจัดฟัน ควรเริ่มจากการพบทันตแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจวินิจฉัยสภาพฟัน พิมพ์ฟัน และเอกซเรย์ เพื่อประเมินความพร้อม หากมีปัญหา เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือฟันคุด ควรได้รับการรักษาและเคลียร์ช่องปากก่อนใส่เครื่องมือจัดฟัน
หลังจากเริ่มจัดฟันแล้ว การดูแลช่องปากเป็นสิ่งสำคัญมาก ผู้ป่วยควรแปรงฟันให้สะอาดหลังอาหารทุกมื้อ ใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย เลือกทานอาหารอ่อน หลีกเลี่ยงของแข็งหรือเหนียวที่จะทำให้เครื่องมือหลุด และต้องมาพบทันตแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อปรับเครื่องมือให้เหมาะสม
หากกำลังวางแผนจะจัดฟัน หรืออยากปรึกษาทางเลือกที่เหมาะสมกับตัวเอง ขอแนะนำให้เริ่มจากการพบผู้เชี่ยวชาญที่คุณวางใจได้ที่ เพ็ชราคลินิก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 094-741-9369
เวลาเปิด-ปิด วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-19.00 น.
พิกัด: https://goo.gl/maps/qUCfWj9PNAhcPuyr8
บทความอื่นๆ
