ปวดฟันหลังจัดฟัน สาเหตุ วิธีรับมือ และการดูแลตัวเอง

Petcharadentalclinic • September 8, 2025

ปวดฟันหลังจัดฟัน: สาเหตุ วิธีรับมือ และการดูแลตัวเอง

ปวดฟันหลังจัดฟัน: สาเหตุ วิธีรับมือ และการดูแลตัวเอง

การจัดฟันเป็นการรักษาที่ช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันและขากรรไกร ทำให้มีรอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม อาการ ปวดฟัน หรือ ปวดเหงือก หลัง จัดฟัน หรือ ปรับเครื่องมือ ถือเป็นเรื่องปกติที่ผู้จัดฟันส่วนใหญ่ต้องเจอ และสามารถจัดการได้ด้วยวิธีที่ถูกต้อง บทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุของอาการปวด พร้อมแนะนำวิธีบรรเทาและดูแลตัวเองอย่างละเอียด


ทำไมถึงมีอาการปวดฟันหลังจัดฟัน?


ทำความเข้าใจอาการปวดฟันหลังจัดฟัน: สาเหตุที่มากกว่าแค่แรงกด

อาการปวดฟันหลังจัดฟันหรือปรับเครื่องมือไม่ได้เกิดจากแรงกดเพียงอย่างเดียว แต่เป็นกระบวนการทางชีววิทยาที่ซับซ้อนภายในกระดูกเบ้าฟัน บทความนี้จะเจาะลึกถึงสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวดฟัน เพื่อให้คุณเข้าใจและรับมือได้อย่างสบายใจ


ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการปวดฟัน

อาการปวดฟันหลังการใส่เครื่องมือจัดฟันครั้งแรก หรือการปรับลวดใหม่ทุกครั้ง เกิดจากกลไกธรรมชาติของร่างกายในการตอบสนองต่อแรงกดที่ถูกส่งผ่านลวดและเครื่องมือจัดฟันไปยังตัวฟัน ซึ่งกระบวนการนี้สามารถแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

1. การไหลเวียนโลหิตบริเวณรากฟันเปลี่ยนแปลงไป

เมื่อลวดจัดฟันออกแรงกดไปที่ฟัน รากฟันจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางนั้น ส่งผลให้เนื้อเยื่อและเส้นเลือดบริเวณรอบๆ รากฟันถูกบีบอัด การไหลเวียนโลหิตจึงลดลงชั่วคราว ทำให้เกิดสภาวะขาดออกซิเจนและสารอาหารในเนื้อเยื่อ ซึ่งร่างกายจะตอบสนองด้วยการหลั่งสารสื่อประสาทประเภท Bradykinin และ Prostaglandin ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดการอักเสบและกระตุ้นเส้นประสาทรับความรู้สึกปวด ทำให้คุณรู้สึกปวดและตึงบริเวณฟัน

2. การสลายตัวและสร้างใหม่ของกระดูกเบ้าฟัน (Bone Remodeling)

นี่คือหัวใจสำคัญของกระบวนการจัดฟัน เมื่อมีแรงกดต่อเนื่อง กระดูกเบ้าฟันจะเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยฝั่งที่มีแรงกดจะเกิดการสลายตัว (Resorption) เพื่อเปิดทางให้ฟันเคลื่อนที่ ส่วนฝั่งตรงข้ามที่ไม่มีแรงกดจะมีการสร้างกระดูกใหม่ (Deposition) เข้ามาเติมเต็มช่องว่างที่เกิดขึ้น กระบวนการนี้ต้องใช้เวลาและพลังงานจากร่างกาย ซึ่งการสลายและสร้างกระดูกนี้เองที่เป็นสาเหตุหลักของความรู้สึกปวดระบมและตึงบริเวณรากฟัน

3. การตอบสนองของเส้นประสาทในช่องปาก

กระบวนการเคลื่อนฟันที่กล่าวมาข้างต้นส่งผลโดยตรงต่อเส้นประสาทที่ควบคุมความรู้สึกของฟัน ซึ่งจะไวต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก แรงกดจากการจัดฟันจะกระตุ้นเส้นประสาทเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบาย ปวด และเสียวฟัน โดยอาการปวดมักจะรู้สึกได้ทันทีหลังจากปรับเครื่องมือและจะค่อยๆ ลดลงเมื่อร่างกายเริ่มปรับตัวเข้ากับแรงกดใหม่


อาการปวดจะเกิดขึ้นนานแค่ไหน?

โดยทั่วไป อาการปวดฟันหลังปรับเครื่องมือจะเริ่มขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังทันตแพทย์ทำการปรับลวด และจะ ปวดมากที่สุดใน 24-48 ชั่วโมงแรก จากนั้นอาการจะค่อยๆ บรรเทาลงและหายไปเองภายใน 3-7 วัน เมื่อร่างกายปรับตัวได้สำเร็จ หากอาการปวดยังคงอยู่และไม่ดีขึ้นหลังผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ฟันโยกมากผิดปกติ หรือเหงือกบวมแดง ควรปรึกษาทันตแพทย์ทันที


วิธีรับมือและบรรเทาอาการปวดฟันหลังจัดฟัน

วิธีรับมือและบรรเทาอาการปวดฟันหลังจัดฟันอย่างละเอียด

อาการปวดฟันหลังจัดฟันเป็นเรื่องปกติ แต่การจัดการที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณผ่านช่วงนี้ไปได้อย่างสบายขึ้น ต่อไปนี้คือวิธีการรับมือและบรรเทาอาการปวดอย่างละเอียดที่คุณสามารถทำตามได้


1. การประคบเย็นเพื่อลดอาการปวดและบวม

การประคบเย็นเป็นวิธีแรกและง่ายที่สุดในการบรรเทาอาการปวดที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ความเย็นจะช่วยลดการไหลเวียนโลหิตในบริเวณที่ปวด ทำให้เส้นประสาทชาชั่วคราวและอาการอักเสบลดลง

  • วิธีทำ: ใช้ผ้าขนหนูห่อน้ำแข็งหรือเจลเย็นสำหรับประคบ แล้วนำไป ประคบที่บริเวณแก้ม ตรงกับตำแหน่งที่รู้สึกปวด
  • ระยะเวลา: ประคบครั้งละ 10-15 นาที แล้วพัก 15 นาที ทำซ้ำได้เรื่อยๆ ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการปรับเครื่องมือ


2. เลือกทานอาหารที่เหมาะสม

ในช่วงแรกที่ฟันกำลังปรับตัว อาการปวดจะทำให้การเคี้ยวอาหารแข็งเป็นเรื่องยากและยิ่งเพิ่มความเจ็บปวด ควรปรับเปลี่ยนเมนูอาหารเพื่อลดแรงกดบนฟัน

  • งดอาหารแข็งและเหนียว: หลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องใช้แรงเคี้ยวมาก เช่น ถั่ว ธัญพืช ลูกอม หรือเนื้อสัตว์ที่เหนียว เพราะจะทำให้ฟันที่กำลังเคลื่อนที่ถูกรบกวน
  • ทานอาหารอ่อนนุ่ม: หันมาเลือกทานอาหารที่เคี้ยวง่ายและไม่ต้องใช้แรงมาก เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ซุป มันบด โยเกิร์ต หรือไข่ตุ๋น การทานอาหารเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้รับสารอาหารครบถ้วนโดยไม่กระทบกระเทือนฟัน


3. การใช้ยาแก้ปวดอย่างถูกวิธี

หากอาการปวดรุนแรงจนกระทบการใช้ชีวิตประจำวัน การทานยาแก้ปวดเป็นตัวช่วยที่ดี แต่ควรเลือกใช้ยาที่เหมาะสม

  • เลือกยาแก้ปวดกลุ่มพาราเซตามอล (Paracetamol): ยาในกลุ่มนี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดีโดยไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการเคลื่อนฟัน
  • หลีกเลี่ยงยาในกลุ่ม NSAIDs: ยาแก้ปวดบางชนิด เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือแอสไพริน (Aspirin) อาจส่งผลต่อกระบวนการสลายและสร้างกระดูก ทำให้การเคลื่อนที่ของฟันช้าลงได้ ดังนั้นควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนใช้ยาในกลุ่มนี้


4. ใช้ขี้ผึ้งจัดฟัน (Orthodontic Wax)

บางครั้งอาการปวดไม่ได้เกิดจากการเคลื่อนฟันเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากเครื่องมือจัดฟัน เช่น ลวดหรือเหล็กที่ทิ่มแทงกระพุ้งแก้ม ทำให้เกิดแผลและอาการระคายเคือง

  • วิธีใช้: ปั้นขี้ผึ้งจัดฟันเป็นก้อนเล็กๆ แล้วนำไป ปิดคลุมบริเวณที่คม หรือบริเวณที่ทิ่มแทง ทำให้พื้นผิวเรียบขึ้นและไม่สร้างความเจ็บปวดต่อเนื้อเยื่อในช่องปาก


5. รักษาความสะอาดช่องปากอย่างนุ่มนวล

แม้จะรู้สึกปวด แต่การแปรงฟันยังคงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาเหงือกอักเสบที่อาจทำให้อาการปวดแย่ลง

  • แปรงฟันด้วยความระมัดระวัง: ใช้แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันที่มีขนแปรงนุ่มและหัวแปรงเล็ก แปรงอย่างเบามือและใช้ไหมขัดฟันสำหรับคนจัดฟันเพื่อทำความสะอาดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟัน
  • ใช้น้ำยาบ้วนปาก: เลือกใช้น้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อช่วยลดเชื้อแบคทีเรียและทำความสะอาดในส่วนที่แปรงฟันเข้าไม่ถึง

หากคุณได้ลองวิธีต่างๆ เหล่านี้แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น เครื่องมือหลวม ฟันโยกมากผิดปกติ หรือเหงือกบวมแดง ควร ปรึกษาทันตแพทย์จัดฟัน ทันทีเพื่อรับการแก้ไขอย่างถูกต้อง



การดูแลตัวเองในระยะยาวระหว่างการจัดฟัน

การดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้การจัดฟันของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจในระยะยาว นอกจากเรื่องการบรรเทาอาการปวดแล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญตลอดการรักษา


1. สุขอนามัยช่องปากที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ

การมีเครื่องมือจัดฟันในช่องปากทำให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องที่ท้าทายขึ้น แต่ก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ เพราะการสะสมของเศษอาหารและคราบจุลินทรีย์จะนำไปสู่ปัญหาฟันผุและเหงือกอักเสบได้ง่าย

  • แปรงฟันอย่างถูกวิธี: ควรใช้ แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟัน ที่มีร่องตรงกลางเพื่อทำความสะอาดทั้งตัวฟันและเครื่องมือจัดฟันได้อย่างทั่วถึง แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และแปรงหลังมื้ออาหารทุกครั้งหากทำได้
  • ใช้ไหมขัดฟันและแปรงซอกฟัน: เศษอาหารมักจะติดอยู่ตามซอกเหล็กและใต้ลวดจัดฟัน การใช้ไหมขัดฟันสำหรับคนจัดฟัน (มีปลายแข็ง) และ แปรงซอกฟัน ขนาดต่างๆ จะช่วยทำความสะอาดในส่วนที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง
  • เลือกใช้น้ำยาบ้วนปาก: ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์เพื่อเสริมความแข็งแรงของฟันและช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ควรเลือกสูตรที่ไม่มีแอลกอฮอล์เพื่อไม่ให้ระคายเคืองช่องปาก


2. เลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม

พฤติกรรมการกินมีผลอย่างมากต่อการจัดฟัน การเลือกอาหารที่ไม่ทำลายเครื่องมือจัดฟันจะช่วยให้การรักษามีความต่อเนื่อง

  • หลีกเลี่ยงอาหารแข็งและเหนียว: อาหารประเภทนี้อาจทำให้เหล็กจัดฟันหรือเครื่องมือหลุดได้ง่าย เช่น การเคี้ยวน้ำแข็ง ถั่วแข็ง ขนมกรุบกรอบ หรือลูกอม การที่เครื่องมือหลุดจะทำให้การเคลื่อนฟันหยุดชะงักและอาจทำให้แผนการรักษาล่าช้าออกไป
  • ระวังอาหารที่ติดง่าย: อาหารที่ติดฟันง่าย เช่น ขนมปังเนื้อเหนียว คาราเมล หรือหมากฝรั่ง ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะทำให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องยากและเพิ่มความเสี่ยงฟันผุ


3. พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง

นอกเหนือจากเรื่องอาหารแล้ว พฤติกรรมบางอย่างก็ควรหลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดระหว่างการจัดฟัน

  • การกัดหรือเคี้ยววัตถุแข็ง: การกัดปากกา ดินสอ หรือเล็บ อาจทำให้เครื่องมือเสียหายและเป็นอันตรายต่อฟันได้
  • การเล่นกีฬาที่เสี่ยงต่อการกระแทก: หากเป็นนักกีฬา ควรแจ้งทันตแพทย์เพื่อทำ เฝือกสบฟัน (Mouthguard) สำหรับการเล่นกีฬาโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันอันตรายต่อฟันและช่องปากหากเกิดอุบัติเหตุ


4. พบทันตแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ

การไปพบทันตแพทย์ตามนัดทุกครั้งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในกระบวนการจัดฟัน เพราะนอกจากทันตแพทย์จะทำการปรับเครื่องมือเพื่อเคลื่อนฟันแล้ว ยังได้ตรวจสุขภาพช่องปากโดยรวม หากพบปัญหา เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือเครื่องมือหลวม ทันตแพทย์จะสามารถแก้ไขได้ทันท่วงที ทำให้การรักษาเป็นไปตามแผนที่วางไว้


อาการปวดฟันหลังจัดฟันเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่หากอาการปวดไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงกว่าปกติ เช่น ปวดแบบไม่หยุด ปวดมากจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หรือมีอาการเหงือกบวมแดง ควรปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันทันที เพราะอาการดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณของปัญหาอื่นที่ต้องได้รับการแก้ไข


การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีและทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์จะช่วยให้การจัดฟันเป็นไปอย่างราบรื่น และช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจในท้ายที่สุด หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ จัดการอาการปวดฟัน หรือ ดูแลช่องปาก ระหว่างการจัดฟัน สามารถสอบถามทันตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้เสมอ


การจัดฟันที่เพชราคลินิก: ดูแลอย่างครบวงจรตั้งแต่เริ่มต้นจนรอยยิ้มสวย

ที่ เพ็ชราคลินิก เราเข้าใจดีว่าการจัดฟันไม่ใช่แค่การทำให้ฟันเรียงสวย แต่เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความเข้าใจ การดูแล และความใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวินิจฉัย การวางแผน ไปจนถึงการดูแลหลังการปรับเครื่องมือ เพื่อให้คุณมั่นใจและสบายใจตลอดการรักษา


1. การวินิจฉัยและการวางแผนอย่างแม่นยำ

ก่อนเริ่มการรักษา ทันตแพทย์จัดฟันของเราจะทำการวินิจฉัยอย่างละเอียด ทั้งการถ่ายภาพรังสี การพิมพ์ปาก และการตรวจสุขภาพช่องปาก เพื่อประเมินปัญหาและวางแผนการเคลื่อนฟันที่เหมาะสมกับคุณที่สุด ทำให้การจัดฟันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดโอกาสเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิด


2. เทคนิคการรักษาที่ช่วยลดอาการปวด

เราเลือกใช้เทคนิคและเครื่องมือจัดฟันที่ทันสมัย ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานและแรงกดต่อฟัน ทำให้การเคลื่อนฟันเป็นไปอย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง ช่วยลดอาการปวดฟันหลังการปรับเครื่องมือให้เหลือน้อยที่สุด


3. ให้คำแนะนำและการดูแลอย่างใกล้ชิด

ทีมทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่ของเราพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองอย่างละเอียด ทั้งวิธี บรรเทาอาการปวดฟัน การเลือกทานอาหารที่เหมาะสม และการทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธี รวมถึงการให้ ขี้ผึ้งจัดฟัน เพื่อป้องกันการระคายเคืองจากเครื่องมือ และตอบคำถามทุกข้อสงสัยของคุณตลอดการรักษา


4. ติดตามผลอย่างต่อเนื่องในทุกนัด

การนัดติดตามผลอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ ที่ เพ็ชราคลินิก เราให้ความสำคัญกับการตรวจเช็กความคืบหน้าของฟันและสุขภาพช่องปากในทุกนัด หากพบปัญหา เช่น เครื่องมือหลวม ฟันผุ หรือเหงือกอักเสบ ทันตแพทย์จะทำการแก้ไขทันที เพื่อให้แผนการรักษาเป็นไปตามที่วางไว้ตั้งแต่ต้น

เพราะรอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพช่องปากที่ดีของคุณคือสิ่งที่เราให้ความสำคัญ หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่พร้อมดูแลคุณอย่างครบวงจรและใส่ใจในทุกรายละเอียด เพ็ชราคลินิก ยินดีให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกขั้นตอนของการจัดฟัน เพื่อให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยสม


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

 โทร. 094-741-9369


 เวลาเปิด-ปิด วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-19.00 น.
พิกัด: 
https://goo.gl/maps/qUCfWj9PNAhcPuyr8

ปรึกษาทันตแพทย์

บทความอื่นๆ

Small-teeth-orthodontics-guide
By Petcharadentalclinic September 5, 2025
ปัญหาฟันเล็กอาจทำให้หลายคนไม่มั่นใจในรอยยิ้ม และเกิดคำถามว่า "ฟันเล็ก จัดฟันได้ไหม?" บทความนี้จะให้ข้อมูลเพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
phetcharaclinic-pain-after-braces
By Petcharadentalclinic September 1, 2025
จัดฟันครั้งแรก อาการปวดฟันบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าอาการปวดที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ และมีวิธีบรรเทาอาการเหล่านั้นได้อย่างไรบ้าง
orthodontic-treatment-gum-recession-causes-prevention
By Petcharadentalclinic September 1, 2025
เหงือกร่น เผยให้เห็นผิวรากฟัน และอาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ บทความนี้จะสาเหตุของการจัดฟันแล้วเหงือกร่น พร้อมแนวทางป้องกันและแก้ไขที่ถูกต้อง