ฟอกสีฟันแล้วเสียวฟัน รับมืออย่างไร

PetcharaDentalClinic • July 11, 2025

ฟอกสีฟันแล้วเสียวฟัน: รับมืออย่างไร

ฟอกสีฟันแล้วเสียวฟัน: รับมืออย่างไร

ฟอกสีฟันแล้วเสียวฟัน: รับมืออย่างไร


การมีรอยยิ้มที่ขาวกระจ่างใสคือความปรารถนาของใครหลายคน ทำให้ การฟอกสีฟัน กลายเป็นหนึ่งในบริการทันตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัญหาหนึ่งที่มักจะมาพร้อมกับการฟอกสีฟันและสร้างความกังวลใจให้กับหลายคนคือ อาการเสียวฟัน วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันว่าทำไมถึงเสียวฟันหลังฟอกสีฟัน เป็นเรื่องปกติหรือไม่ และจะมีวิธีรับมือกับอาการนี้ได้อย่างไรบ้าง


ทำไมฟอกสีฟันแล้วถึงเสียวฟัน?

อาการเสียวฟันหลังฟอกสีฟันเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักๆ มาจากกลไกการทำงานของน้ำยาฟอกสีฟัน:

  • สาร Peroxide ซึมเข้าสู่เนื้อฟัน: น้ำยาฟอกสีฟันส่วนใหญ่มีส่วนประกอบของ Hydrogen Peroxide หรือ Carbamide Peroxide สารเหล่านี้จะซึมผ่านชั้นเคลือบฟัน (Enamel) เข้าไปในเนื้อฟัน (Dentin) ซึ่งมีท่อเล็กๆ จำนวนมากที่เชื่อมต่อไปยังโพรงประสาทฟัน (Pulp)
  • กระตุ้นเส้นประสาท: เมื่อสาร Peroxide เข้าไปในท่อเนื้อฟัน มันอาจกระตุ้นเส้นประสาทที่อยู่ภายในโพรงประสาทฟัน ทำให้เกิดอาการเสียวแปลบขึ้นมา โดยเฉพาะเมื่อฟันสัมผัสกับความเย็น ความร้อน หรือแรงกด
  • ภาวะฟันแห้งชั่วคราว: ในกระบวนการฟอกสีฟัน ฟันอาจมีการสูญเสียน้ำชั่วคราว ทำให้ท่อเนื้อฟันเปิดกว้างขึ้นและตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นได้ง่ายขึ้น

อาการเสียวฟันนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงระหว่างหรือหลังการฟอกสีฟันทันที และส่วนใหญ่จะเป็นอาการ ชั่วคราว ซึ่งจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมงหรืออาจนานถึง 2-3 วัน


อาการเสียวฟันที่พบได้หลังฟอกสีฟัน

อาการเสียวฟันหลังฟอกสีฟันมีระดับความรุนแรงแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ตั้งแต่เสียวเพียงเล็กน้อยรู้สึกจี๊ดๆ ไปจนถึงเสียวมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อาการที่พบบ่อยได้แก่:

  • เสียวฟันเมื่อสัมผัสกับของเย็น: เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด เช่น ดื่มน้ำเย็น ไอศกรีม หรือแม้แต่ลมเย็นๆ
  • เสียวฟันเมื่อสัมผัสกับของร้อน: พบได้บ้าง แต่ไม่บ่อยเท่าความเย็น
  • เสียวฟันเมื่อหายใจเอาอากาศเย็นเข้าปาก: โดยเฉพาะในห้องแอร์ หรือบริเวณที่มีลมเย็น
  • เสียวฟันเมื่อแปรงฟัน: น้ำยาหรือขนแปรงอาจกระตุ้นให้เกิดอาการเสียวได้
  • เสียวฟันจี๊ดๆ เป็นพักๆ: โดยไม่มีสิ่งกระตุ้นที่ชัดเจน

หากอาการเสียวฟันรุนแรงมากผิดปกติ หรือไม่หายไปเองภายใน 2-3 วัน ควรปรึกษาทันตแพทย์ทันที เพราะอาจมีสาเหตุอื่นแอบแฝงอยู่


ใครบ้างที่เสี่ยงต่ออาการเสียวฟันหลังฟอกสีฟัน?

แม้จะเป็นเรื่องปกติ แต่บางคนก็มีแนวโน้มที่จะเสียวฟันหลังฟอกสีฟันมากกว่าคนอื่น:

  • ผู้ที่มีฟันหรือเหงือกอ่อนไหวอยู่แล้ว: เช่น มีอาการเสียวฟันเป็นประจำ หรือมีเหงือกร่น
  • ผู้ที่มีฟันสึก: การสึกของฟันทำให้เนื้อฟันเปิดออก สาร Peroxide จึงซึมเข้าไปได้ง่ายขึ้น
  • ผู้ที่มีฟันผุ: ฟันผุจะทำให้โครงสร้างฟันอ่อนแอลง และโพรงประสาทฟันใกล้กับผิวฟันมากขึ้น
  • ผู้ที่มีรอยร้าวเล็กๆ บนผิวฟัน: แม้จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่รอยร้าวเหล่านี้ก็เป็นช่องทางให้น้ำยาซึมเข้าไปได้
  • การใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูง: ยิ่งน้ำยาเข้มข้นมากเท่าไหร่ โอกาสเสียวฟันก็ยิ่งสูงขึ้น
  • การฟอกสีฟันเป็นเวลานานเกินไป: การปล่อยให้น้ำยาฟอกสีฟันสัมผัสกับฟันนานเกินไปก็อาจเพิ่มความเสี่ยงได้
  • การดูแลฟันไม่ดีก่อนฟอกสีฟัน: เช่น ไม่ได้ขูดหินปูน หรือมีปัญหาเหงือกอักเสบ


วิธีรับมือและลดอาการเสียวฟันหลังฟอกสีฟัน

ไม่ต้องกังวลไป! มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดหรือบรรเทาอาการเสียวฟันหลังฟอกสีฟัน:

  1. แจ้งทันตแพทย์: หากคุณมีประวัติเสียวฟันง่าย หรือมีความกังวล ควรแจ้งทันตแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อให้ทันตแพทย์พิจารณาเลือกความเข้มข้นของน้ำยาหรือเทคนิคที่เหมาะสม
  2. ใช้ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน: เริ่มใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของโพแทสเซียมไนเตรต (Potassium Nitrate) หรือสตรอนเทียมคลอไรด์ (Strontium Chloride) ก่อนและหลังการฟอกสีฟันประมาณ 1-2 สัปดาห์ สารเหล่านี้จะช่วยอุดรูเล็กๆ ในเนื้อฟันและลดการส่งผ่านความรู้สึกไปยังเส้นประสาท
  3. หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่กระตุ้น: งดเครื่องดื่มเย็นจัด ร้อนจัด เปรี้ยวจัด หรือหวานจัดในช่วง 2-3 วันแรกหลังฟอกสีฟัน
  4. แปรงฟันเบาๆ ด้วยขนแปรงนุ่ม: หลีกเลี่ยงการแปรงฟันแรงๆ หรือใช้ยาสีฟันที่มีฤทธิ์กัดกร่อน
  5. ใช้ฟลูออไรด์เจลหรือน้ำยาบ้วนปาก: ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ใช้ฟลูออไรด์เจล หรือน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์เข้มข้น ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของชั้นเคลือบฟันและลดอาการเสียวฟัน
  6. รับประทานยาแก้ปวด: หากอาการเสียวฟันรบกวนมาก สามารถรับประทานยาแก้ปวดที่หาซื้อได้ทั่วไป เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือพาราเซตามอล (Paracetamol)
  7. พักฟัน: หากฟอกสีฟันที่บ้านและมีอาการเสียวฟันมาก ให้หยุดพักการฟอกสีฟันไป 1-2 วัน แล้วค่อยกลับมาทำใหม่
  8. กลับไปพบทันตแพทย์: หากอาการเสียวฟันไม่ดีขึ้น หรือรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ควรรีบกลับไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม


ข้อควรพิจารณาก่อนฟอกสีฟัน

เพื่อลดความเสี่ยงของการเสียวฟัน และเพื่อให้ผลลัพธ์การฟอกสีฟันเป็นที่น่าพึงพอใจ ควรพิจารณาสิ่งเหล่านี้ก่อนตัดสินใจ:

  • ตรวจสุขภาพช่องปาก: ต้องแน่ใจว่าไม่มีฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือปัญหาอื่นๆ ที่ต้องรักษาให้เรียบร้อยก่อน
  • ขูดหินปูนและทำความสะอาดฟัน: เพื่อขจัดคราบและหินปูนที่เกาะอยู่บนผิวฟัน ทำให้การฟอกสีฟันมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • เลือกคลินิกและทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์: การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด รวมถึงการรับมือกับอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
  • ปรึกษาเรื่องความเข้มข้นของน้ำยา: ทันตแพทย์จะช่วยเลือกความเข้มข้นของน้ำยาที่เหมาะสมกับสภาพฟันและความไวของแต่ละบุคคล


เกิดอาการเสียวฟันหลังฟอกสีฟัน ควรทำอย่างไรดี?

การมีอาการ เสียวฟัน หลังการ ฟอกสีฟัน เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยและเป็นอาการข้างเคียงปกติที่มักจะเกิดขึ้นชั่วคราว ไม่ต้องตกใจไปครับ ส่วนใหญ่แล้วอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือ 2-3 วัน แต่ถ้าคุณกำลังเผชิญกับความรู้สึกเสียวจี๊ดๆ อยู่ตอนนี้ ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อบรรเทาอาการและดูแลฟันของคุณให้กลับมาเป็นปกติได้เร็วที่สุด


1. หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น

ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการฟอกสีฟัน เป็นช่วงที่ฟันของคุณจะอ่อนไหวเป็นพิเศษ พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเหล่านี้:

  • อาหารและเครื่องดื่มเย็นจัด/ร้อนจัด: เช่น น้ำแข็ง ไอศกรีม กาแฟร้อนจัด หรือซุป
  • อาหารและเครื่องดื่มรสเปรี้ยว/หวานจัด: เช่น น้ำอัดลม ผลไม้รสเปรี้ยว ขนมหวาน เพราะอาจกระตุ้นเส้นประสาทได้
  • ลมเย็น: หากจำเป็นต้องอยู่ในที่ที่มีลมเย็น หรือห้องแอร์จัดๆ ลองหายใจทางจมูกแทน เพื่อลดการสัมผัสลมเย็นโดยตรงกับฟัน


2. ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับลดอาการเสียวฟัน

  • ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน: เริ่มใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของ โพแทสเซียมไนเตรต (Potassium Nitrate) หรือ สตรอนเทียมคลอไรด์ (Strontium Chloride) เช่น Sensodyne, Colgate Sensitive Pro-Relief หรือยาสีฟันสำหรับฟันบอบบางโดยเฉพาะ สารเหล่านี้จะช่วยปิดกั้นท่อเล็กๆ บนผิวเนื้อฟันที่เชื่อมต่อกับเส้นประสาท ทำให้ความรู้สึกเสียวลดลง สามารถใช้แปรงฟันได้ตามปกติ หรือจะใช้นิ้วป้ายยาสีฟันบางๆ ทาบริเวณที่เสียวทิ้งไว้สักครู่ก็ได้
  • น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์: การบ้วนปากด้วยน้ำยาที่มี ฟลูออไรด์ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเคลือบฟันและลดอาการเสียวฟันได้


3. ปรับพฤติกรรมการแปรงฟัน

  • ใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม: หลีกเลี่ยงแปรงสีฟันขนแข็งที่อาจไปทำลายเคลือบฟันและเหงือก
  • แปรงฟันเบาๆ: อย่าออกแรงกดมากเกินไปในขณะแปรงฟัน


4. พักฟัน (สำหรับการฟอกสีฟันที่บ้าน)

หากคุณกำลังฟอกสีฟันด้วยชุดอุปกรณ์ที่บ้าน และมีอาการเสียวฟันมากผิดปกติ ให้หยุดพักการฟอกสีฟันไป 1-2 วัน เพื่อให้ฟันได้ฟื้นตัวก่อน แล้วค่อยกลับมาทำต่อตามคำแนะนำของทันตแพทย์


5. รับประทานยาแก้ปวด (ถ้าจำเป็น)

หากอาการเสียวฟันรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมาก และรู้สึกไม่สบายตัวอย่างรุนแรง คุณสามารถรับประทานยาแก้ปวดที่หาซื้อได้ทั่วไป เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือ พาราเซตามอล (Paracetamol) เพื่อบรรเทาอาการได้


6. ปรึกษาทันตแพทย์

นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด หากอาการเสียวฟันของคุณ:

  • รุนแรงมากผิดปกติ จนทนไม่ไหว
  • ไม่ดีขึ้น หรือ แย่ลงเรื่อยๆ หลังจากทำตามคำแนะนำเบื้องต้นแล้ว
  • ไม่หายไป ภายใน 3-5 วัน

ควรรีบกลับไปพบ ทันตแพทย์ ทันที เพื่อให้ทันตแพทย์ตรวจประเมินสาเหตุที่แท้จริง เช่น อาจมีฟันผุที่ไม่เคยทราบมาก่อน มีเหงือกร่น หรือปัญหาอื่นๆ ที่ต้องได้รับการแก้ไข เพื่อให้คุณมั่นใจว่าฟันของคุณอยู่ในสภาพที่ดีและปลอดภัย


สรุป

อาการเสียวฟันหลังฟอกสีฟันเป็นอาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยและเป็นเรื่องปกติที่สามารถจัดการได้ การทำความเข้าใจสาเหตุ การเตรียมตัวที่ดีก่อนฟอกสีฟัน และการปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยลดโอกาสเกิดอาการ และทำให้การฟอกสีฟันของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและได้รอยยิ้มที่ขาวสดใสอย่างที่ตั้งใจไว้


เคยเสียวฟันหลังฟอกสีฟันใช่ไหม? ให้เพ็ชราคลินิกดูแลรอยยิ้มของคุณ!

หากคุณกำลังประสบปัญหาเสียวฟันหลังฟอกสีฟัน หรือกำลังวางแผนที่จะฟอกสีฟันและต้องการปรึกษาเพื่อลดความกังวลใจ 


เพ็ชราคลินิก ยินดีให้คำแนะนำและดูแลคุณอย่างใกล้ชิด ทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมประเมินสภาพฟันของคุณอย่างละเอียด วางแผนการฟอกสีฟันที่เหมาะสมที่สุด และให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี เพื่อให้คุณได้รอยยิ้มที่ขาวสวยอย่างมั่นใจ ปลอดภัย และไร้กังวลเรื่องอาการเสียวฟัน 


ติดต่อเพ็ชราคลินิกวันนี้ เพื่อให้เราช่วยดูแลสุขภาพช่องปากและรอยยิ้มของคุณ


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

 โทร. 094-741-9369


 เวลาเปิด-ปิด วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-19.00 น.
พิกัด: 
https://goo.gl/maps/qUCfWj9PNAhcPuyr8

ปรึกษาทันตแพทย์

บทความอื่นๆ

รักษารากฟัน ราคาเท่าไหร่ เจาะลึกค่าใช้จ่ายและขั้นตอนที่ควรรู้
By Petcharadentalclinic August 1, 2025
การรักษารากฟัน เป็นทางเลือกในการช่วยเก็บรักษาฟันซี่นั้นไว้ ไม่ต้องถอนทิ้ง แต่หลายคนมักกังวลเรื่อง ราคาและขั้นตอน บทความนี้จะเจาะลึกทุกประเด็นที่คุณควรรู้
จัดฟันแก้ฟันล่างคร่อมฟันบน แก้ได้ไหม? ต้องผ่าตัดหรือไม่?
By Petchraradentalclinic July 30, 2025
คำถามที่พบบ่อยสำหรับผู้ที่มีภาวะนี้คือ "ฟันล่างคร่อมฟันบน แก้ได้ไหม?" และ "ต้องผ่าตัดหรือไม่?" คำตอบคือ สามารถแก้ไขได้ และในหลายกรณีอาจไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเสมอไป
5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการจัดฟัน ที่คุณควรรู้
By Petcharadentalclinic July 28, 2025
การจัดฟันเป็นที่นิยมมากขึ้น แต่ก็มีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการจัดฟันแพร่กระจายอยู่มาก อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดมาดูกันว่า 5 ความเชื่อผิดๆ ที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง