ฟอกสีฟันหลังจัดฟัน: เคล็ดลับเพื่อรอยยิ้มขาวกระจ่างใสอย่างสมบูรณ์แบบ

PetcharaDentalClinic • July 9, 2025

ฟอกสีฟันหลังจัดฟัน: เคล็ดลับเพื่อรอยยิ้มขาวกระจ่างใสอย่างสมบูรณ์แบบ

ฟอกสีฟันหลังจัดฟัน: เคล็ดลับเพื่อรอยยิ้มขาวกระจ่างใสอย่างสมบูรณ์แบบ

ฟอกสีฟันหลังจัดฟัน: เคล็ดลับเพื่อรอยยิ้มขาวกระจ่างใสอย่างสมบูรณ์แบบ


การจัดฟันช่วยให้คุณมีโครงสร้างฟันที่สวยงามและเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ แต่เมื่อจัดฟันเสร็จแล้ว หลายคนอาจพบว่าสีฟันดูไม่ขาวใสเท่าที่ควร เนื่องจากคราบสะสมในระหว่างการจัดฟัน หรือแม้แต่สีฟันตามธรรมชาติที่อาจหมองคล้ำลงตามกาลเวลา
การฟอกสีฟันหลังจัดฟัน จึงเป็นขั้นตอนที่ช่วยเติมเต็มรอยยิ้มของคุณให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น บทความนี้จะเจาะลึกทุกเรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการฟอกสีฟันหลังจากถอดเครื่องมือจัดฟัน


ทำไมต้องฟอกสีฟันหลังจัดฟัน?

ถึงแม้ว่าการจัดฟันจะช่วยให้ฟันเรียงตัวสวย แต่เครื่องมือจัดฟัน เช่น เหล็กจัดฟันหรือยางโอริง อาจเป็นจุดสะสมของเศษอาหารและคราบต่างๆ ได้ง่าย ทำให้การทำความสะอาดเป็นไปได้ยากขึ้น สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดคราบเหลืองหรือคราบคล้ำบนผิวฟันได้ง่าย นอกจากนี้ สีฟันเดิมของคุณเองก็อาจไม่ขาวอย่างที่ต้องการ การฟอกสีฟันจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มความมั่นใจให้กับรอยยิ้มใหม่ของคุณ


ควรฟอกสีฟันเมื่อไหร่หลังถอดเครื่องมือจัดฟัน?

โดยทั่วไป ทันตแพทย์จะแนะนำให้รอประมาณ 1-3 เดือนหลังจากการถอดเครื่องมือจัดฟัน ก่อนที่จะเข้ารับการฟอกสีฟัน ช่วงเวลานี้มีความสำคัญด้วยเหตุผลดังนี้:

  • ให้ฟันและเหงือกได้พักฟื้น: หลังจากถอดเครื่องมือจัดฟัน ฟันและเหงือกอาจมีความอ่อนไหวเล็กน้อย การรอให้เนื้อเยื่อในช่องปากกลับมาแข็งแรงเต็มที่ก่อนจะช่วยลดอาการเสียวฟันและระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นจากการฟอกสีฟัน
  • ปรับสภาพของฟัน: ฟันที่เพิ่งถอดเครื่องมือจัดฟันอาจมีการเคลื่อนที่เล็กน้อยเพื่อปรับเข้าสู่ตำแหน่งสุดท้าย การรอจะช่วยให้โครงสร้างของฟันคงที่ก่อนการฟอกสีฟัน
  • การใส่รีเทนเนอร์: บางครั้งทันตแพทย์อาจแนะนำให้คุณเริ่มใส่รีเทนเนอร์ก่อน ซึ่งอาจมีผลต่อการเลือกวิธีการฟอกสีฟัน


ประเภทของการฟอกสีฟันที่เหมาะสำหรับผู้ที่เคยจัดฟัน

เช่นเดียวกับการฟอกสีฟันทั่วไป มีสองวิธีหลักๆ ที่ได้รับความนิยม:

  • การฟอกสีฟันที่คลินิก (In-office Bleaching):
  • ข้อดี: เห็นผลรวดเร็วทันใจ มักใช้เวลาเพียง 1-2 ชั่วโมงต่อครั้ง และอยู่ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์ ทำให้มีความปลอดภัยสูง ทันตแพทย์สามารถปรับระดับความเข้มข้นของน้ำยาได้ตามสภาพฟันของคุณ
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และมีความสะดวกในการเดินทางมาคลินิก
  • ขั้นตอน: ทันตแพทย์จะทำความสะอาดฟัน ป้องกันเหงือกและเนื้อเยื่ออ่อน จากนั้นทาน้ำยาฟอกสีฟันลงบนผิวฟัน และอาจใช้แสง LED หรือเลเซอร์กระตุ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
  • การฟอกสีฟันที่บ้าน (Home Bleaching):
  • ข้อดี: สะดวก สามารถทำได้เองที่บ้านตามคำแนะนำของทันตแพทย์ และมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการฟอกสีฟันที่คลินิก
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการฟอกสีฟันอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือใช้เพื่อคงสภาพความขาวหลังจากฟอกสีฟันที่คลินิกแล้ว
  • ขั้นตอน: ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากเพื่อสร้างถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคลที่พอดีกับรูปฟันของคุณ จากนั้นจะให้น้ำยาฟอกสีฟันมาพร้อมคำแนะนำในการใช้งานที่บ้าน โดยทั่วไปจะใส่ถาดฟอกสีฟันพร้อมน้ำยาวันละ 1-2 ชั่วโมง หรือตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เป็นเวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์


สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนฟอกสีฟันหลังจัดฟัน

  • สุขภาพช่องปาก: ก่อนฟอกสีฟัน คุณจะต้องได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือปัญหาอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันหรือระคายเคือง
  • คราบและหินปูน: การขูดหินปูนและทำความสะอาดฟันให้เรียบร้อยก่อนฟอกสีฟันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้น้ำยาสามารถซึมเข้าสู่เนื้อฟันได้อย่างเต็มที่และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • วัสดุอุดฟัน/ครอบฟัน: โปรดทราบว่าการฟอกสีฟันจะไม่สามารถเปลี่ยนสีวัสดุอุดฟัน ครอบฟัน หรือวีเนียร์ ให้ขาวขึ้นได้ หากคุณมีวัสดุเหล่านี้ ทันตแพทย์อาจแนะนำให้เปลี่ยนวัสดุเหล่านั้นหลังจากฟอกสีฟันแล้ว เพื่อให้สีเข้ากัน
  • อาการเสียวฟัน: เป็นอาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุด มักเกิดขึ้นชั่วคราวและจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมงถึงไม่กี่วัน การแจ้งทันตแพทย์เกี่ยวกับประวัติอาการเสียวฟันจะช่วยให้ทันตแพทย์สามารถวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้
  • รีเทนเนอร์: หากคุณมีรีเทนเนอร์แบบติดแน่น (Permanent Retainer) ที่ติดอยู่ด้านหลังฟัน ทันตแพทย์จะสามารถฟอกสีฟันได้โดยไม่มีปัญหา แต่หากเป็นรีเทนเนอร์แบบถอดได้ ทันตแพทย์จะแนะนำแนวทางที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบต่อการใส่รีเทนเนอร์ของคุณ


การดูแลหลังฟอกสีฟันเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

เพื่อให้รอยยิ้มขาวกระจ่างใสอยู่กับคุณไปนานๆ สิ่งสำคัญคือการดูแลรักษาหลังฟอกสีฟัน:

  • หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม: อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงแรกหลังฟอกสีฟัน ควรงดชา กาแฟ ไวน์แดง น้ำอัดลม น้ำผลไม้สีเข้ม แกงกะหรี่ หรืออาหารที่มีซอสสีเข้ม เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันกลับมาดูดซับสี
  • งดสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดคราบเหลืองบนฟันได้อย่างรวดเร็ว
  • รักษาสุขอนามัยช่องปากที่ดี: แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟัน และน้ำยาบ้วนปากที่ไม่ผสมสี เพื่อป้องกันการสะสมของคราบต่างๆ
  • พบทันตแพทย์เป็นประจำ: ตรวจสุขภาพฟันและขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือน เพื่อคงความสะอาดและสุขภาพที่ดีของช่องปาก
  • อาจมีการฟอกสีฟันซ้ำ (Touch-up): หากสีฟันเริ่มกลับมาหมองคล้ำ ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ทำการฟอกสีฟันซ้ำเล็กน้อย เพื่อคงความขาวสดใสของรอยยิ้ม


การฟอกสีฟันหลังจัดฟัน
ถือเป็นการลงทุนเพื่อความมั่นใจในรอยยิ้มของคุณ การปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด


ไม่ฟอกสีฟันได้หรือไม่ อะไรที่ควรรู้

การไม่ฟอกสีฟันหลังจัดฟันมีข้อดีอย่างไร?

  • ประหยัดค่าใช้จ่าย: การฟอกสีฟันมีค่าใช้จ่าย ซึ่งการไม่ฟอกก็ช่วยประหยัดเงินในส่วนนี้ไปได้
  • หลีกเลี่ยงอาการเสียวฟัน: แม้ว่าอาการเสียวฟันหลังฟอกสีฟันจะเกิดขึ้นชั่วคราวและหายไปเอง แต่บางคนอาจไม่ต้องการเผชิญกับอาการนี้
  • ไม่ต้องดูแลเพิ่มเติม: หลังการฟอกสีฟันจำเป็นต้องมีการดูแลบางอย่าง เช่น การหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม ซึ่งหากคุณไม่ฟอก ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้

แล้วถ้าไม่ฟอกสีฟัน สีฟันจะเป็นอย่างไร?

ถ้าคุณไม่ฟอกสีฟันหลังจัดฟัน สีฟันของคุณจะยังคงเป็นสีธรรมชาติของฟันคุณ หรือสีฟันที่อาจมีคราบสะสมอยู่บ้างจากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ชา กาแฟ หรือบุหรี่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติค่ะ

สิ่งสำคัญที่ควรทำหลังจัดฟัน แม้ไม่ฟอกสีฟัน

ไม่ว่าจะฟอกสีฟันหรือไม่ก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดหลังการจัดฟันคือการดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีเยี่ยม เพื่อรักษาสุขภาพฟันและเหงือก รวมถึงคงสภาพฟันที่เรียงตัวสวยงามไว้ให้นานที่สุด:

  • แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง: แปรงให้สะอาดทั่วถึงทุกซี่ และใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ
  • ใช้รีเทนเนอร์อย่างเคร่งครัด: นี่คือหัวใจสำคัญในการรักษาสภาพฟันที่จัดมาแล้วให้คงอยู่ถาวรตามที่ทันตแพทย์แนะนำ
  • พบทันตแพทย์เป็นประจำ: ตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนทุก 6 เดือน เพื่อขจัดคราบและหินปูนที่อาจสะสม และดูแลสุขภาพเหงือก

สรุปคือ การฟอกสีฟันเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในการเพิ่มความมั่นใจให้กับรอยยิ้มของคุณ หากคุณพอใจกับสีฟันตามธรรมชาติอยู่แล้ว หรือไม่ต้องการมีอาการเสียวฟันเพิ่มเติม การไม่ฟอกสีฟันก็ไม่ใช่ปัญหา


ฟอกสีฟัน
หรือ ไม่ฟอกสีฟัน หลังจัดฟัน

ขึ้นอยู่กับความต้องการและความพึงพอใจส่วนตัวของคุณเป็นหลักเลย ไม่มีคำตอบที่ "ถูก" หรือ "ผิด" ตายตัว เพราะแต่ละคนก็มีปัจจัยที่ต้องพิจารณาต่างกัน

ลองพิจารณาคำถามเหล่านี้เพื่อช่วยในการตัดสินใจ:

  • คุณพอใจกับสีฟันปัจจุบันของคุณมากแค่ไหน?
  • ถ้าพอใจ: ไม่จำเป็นต้องฟอกสีฟันก็ได้ค่ะ แค่ดูแลสุขภาพช่องปากให้ดี ฟันของคุณก็จะดูสะอาดและเป็นธรรมชาติ
  • ถ้าไม่พอใจ/รู้สึกว่าฟันคล้ำลง: การฟอกสีฟันอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับรอยยิ้มของคุณ
  • คุณต้องการให้ฟันขาวขึ้น "อย่างเห็นได้ชัด" หรือไม่?
  • ถ้าคุณต้องการความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน การฟอกสีฟันสามารถช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้หลายเฉดสี
  • ถ้าคุณแค่ต้องการให้ฟันดูสะอาดขึ้นเล็กน้อย การขูดหินปูนและแปรงฟันอย่างถูกวิธีก็อาจเพียงพอแล้ว
  • คุณกังวลเรื่องอาการเสียวฟันหรือไม่?
  • การฟอกสีฟันมีโอกาสทำให้เกิดอาการเสียวฟันชั่วคราวได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะหายไปเอง แต่หากคุณมีประวัติเสียวฟันง่ายมากๆ อาจต้องปรึกษาทันตแพทย์อย่างละเอียดก่อน หรือเลือกวิธีฟอกสีฟันที่อ่อนโยนกว่า
  • งบประมาณและการดูแลหลังทำเป็นอย่างไร?
  • การฟอกสีฟันมีค่าใช้จ่าย และหลังทำต้องมีการดูแลตัวเองเพื่อรักษาสีฟันให้คงอยู่นาน หากคุณไม่อยากเพิ่มภาระในส่วนนี้ การไม่ฟอกก็เป็นทางเลือกที่ดี
  • มีภาวะทางช่องปากอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาไหม?
  • หากคุณมีฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือครอบฟัน/วัสดุอุดฟันที่มองเห็นได้ชัดเจน การฟอกสีฟันอาจทำให้สีไม่สม่ำเสมอ หรือต้องแก้ไขปัญหาก่อน ซึ่งทันตแพทย์จะให้คำแนะนำได้

สรุปคือ:

  • ควรฟอกสีฟัน ถ้า...
  • คุณต้องการให้ฟันขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและเพิ่มความมั่นใจให้กับรอยยิ้ม
  • คุณไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณหรืออาการเสียวฟันที่รุนแรง
  • คุณพร้อมที่จะดูแลฟันอย่างสม่ำเสมอหลังการฟอกสีฟัน
  • ไม่ฟอกสีฟันก็ไม่เป็นไร ถ้า...
  • คุณพอใจกับสีฟันธรรมชาติของคุณอยู่แล้ว
  • คุณต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายและหลีกเลี่ยงอาการเสียวฟันที่อาจเกิดขึ้น
  • คุณให้ความสำคัญกับการมีสุขภาพช่องปากที่ดีและการดูแลรักษาฟันที่เรียงตัวสวยงามเป็นอันดับแรก

สิ่งที่ดีที่สุดคือ ปรึกษาทันตแพทย์ ทันตแพทย์จะสามารถประเมินสภาพฟันของคุณ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสีฟันที่เหมาะสม และอธิบายข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธีได้อย่างละเอียด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจที่สุด


ฟอกสีฟันหลังจัดฟัน — ทางเลือกเพื่อรอยยิ้มสมบูรณ์แบบ

การจัดฟันคือการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อสุขภาพและโครงสร้างฟันที่สวยงาม แต่หลายคนอาจพบว่าแม้ฟันจะเรียงตัวดีแล้ว แต่สีฟันกลับดูไม่ขาวใสเท่าที่ควร การฟอกสีฟันหลังจัดฟัน จึงเป็นเหมือน "ขั้นตอนสุดท้าย" ที่ช่วยเติมเต็มความมั่นใจให้กับรอยยิ้มใหม่ของคุณให้ขาวกระจ่างใสอย่างสมบูรณ์แบบ


การตัดสินใจว่าจะฟอกสีฟันหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและความพึงพอใจส่วนบุคคล หากคุณรู้สึกว่าฟันคล้ำลงหรืออยากให้รอยยิ้มของคุณโดดเด่นยิ่งขึ้น การฟอกสีฟันก็เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม แต่หากคุณพอใจกับสีฟันธรรมชาติอยู่แล้ว หรือมีข้อจำกัดบางประการ ก็สามารถเลือกที่จะไม่ฟอกได้เช่นกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาพฟัน รับคำแนะนำที่เหมาะสม และเลือกแนวทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณ


อยากมีรอยยิ้มที่ขาวใส มั่นใจหลังจัดฟันใช่ไหม?


ให้ เพ็ชราคลินิก เป็นผู้ดูแลรอยยิ้มของคุณ! ที่เพ็ชราคลินิก เรามีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาและบริการฟอกสีฟันที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการฟอกสีฟันที่คลินิกเพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็ว หรือการฟอกสีฟันที่บ้านเพื่อความสะดวกสบาย เราพร้อมช่วยคุณไขข้อข้องใจ และออกแบบรอยยิ้มที่ขาวกระจ่างใสที่สุดในแบบของคุณเอง 


ติดต่อเพ็ชราคลินิกวันนี้ พร้อมรับโปรโมชั่นราคาพิเศษ!


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

 โทร. 094-741-9369


 เวลาเปิด-ปิด วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-19.00 น.
พิกัด: 
https://goo.gl/maps/qUCfWj9PNAhcPuyr8

ปรึกษาทันตแพทย์

บทความอื่นๆ

ฟอกฟันขาว ราคาเท่าไหร่? คุ้มค่าไหมกับการลงทุนเพื่อรอยยิ้มสดใส!
July 14, 2025
บทความนี้จะเจาะลึกเรื่องราคาของการฟอกฟันขาวแต่ละประเภท พร้อมปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่าย เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
ฟอกสีฟันแล้วเสียวฟัน รับมืออย่างไร ทำไมถึงเสียวฟันหลังฟอกสีฟัน
By PetcharaDentalClinic July 11, 2025
การฟอกสีฟัน กลายเป็นหนึ่งในบริการทันตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัญหาหนึ่งที่มักจะมาพร้อมกับการฟอกสีฟันกับหลายคนคือ อาการเสียวฟัน
รากฟันเทียม: ทางเลือกใหม่เพื่อฟันที่หายไป คืนรอยยิ้มและการเคี้ยวอาหาร
By Petcharadentalclinic July 7, 2025
การสูญเสียฟันเป็นปัญหาที่หลายคนเจอ ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ ฟันผุ โรคเหงือก ส่งผลกระทบมากกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่เรื่องการกิน แต่ยังกระทบถึงการพูดและความมั่นใจในรอยยิ้ม